ประวัติ xxxtentacion

ประวัติ XXXTENTACION

 ก่อนจะเริ่มกันเรามาเครียกันเรื่องชื่อของเค้ากันครับ

XXXTENTACION

( อ่านว่า เอ็กซ์เอ็กซ์เอ็กซ์เท็นทาชิออน )

ที่ผมรู้เนี้ยคือผมเคยไปดูที่ X โดนสัมภาษณ์เกี่ยวกับชื่อตัวเอง แล้ว คนสัมภาษณ์ ให้ X เรียกชื่อตัวเอง

แล้วแกก็เรียกชื่อตัวเองแบบเนี้ยอะครับ 

ไม่ใช่เท็นทาชั่น ไม่ใช่เท็นทาชิโอะ

1.โรงเรียนที่Xเริ่มเรียนแรกสุด

โรงเรียนที่Xเริ่มเรียนแรกสุด คือเป็นโรงเรียนประสานเสียงประจำรัฐฟลอริดา เลยนะครับเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงพอสมควร ที่Xเลือกมาเรียนที่นี้เพราะป้า X เป็นคนแนะนำ ให้มาเรียนครับ แล้ว X ก็ชอบมันพอ

มากด้วย เค้าตั้งใจเรียนมากๆ จนเป็นคนนำร้องประจำโบสถ์ประจำรัฐเลยทีเดียว แต่ด้วยความที่เลือดร้อนตั้งแต่เด็กๆ เลยมีเรื่องภายในโรงเรียนบ่อย ใช่ความรุนแรงเข้าตัดสิน ก็เลยโดนไล่ออกมา จน แม่ของเค้าต้องหาที่เรียนให้เค้าใหม่ นั่นคือ Sheriden House เป็นกระทรวงครอบครัวครับ ถ้าบ้านเราเรียก กสน. นั่นเอง

เด็กที่เรียนที่นั่น ก็จะเป็นเด็กเกเรเด็กมีปัญหาซะส่วนใหญ่ จนมัธยม เค้าก็เข้าเรียนต่อที่ Piper High School แต่ก็เรียนไม่จบ เกรด 10 เพราะความเป็น GANGSTER เลือดมันร้อน ก็เลยทำให้ ต้องออกมาใช่ชีวิตนอกระบบการศึกษานะครับ

2.ชื่อจริงของเค้าคือ 

Jahseh Dwayne Onfroy หรือ เรียกว่า Onfroy ก็ได้ครับ เพราะทางบ้านของเค้าจะเรียกเค้าแบบนั่น เค้าถูกเลี้ยงดูโดยคุณยายซะส่วนใหญ่ตั้งแต่เกิดมาเพราะแม่ของเค้ามีปัญหาทางการเงินที่เรื้อรังมากๆเลยทำให้ไม่มีเงินพอจะดูแล X ได้ ส่วนพ่อของ X นั่นก็ทิ้งครอบครัวไปตั้งแต่ตอนเค้าเกิดทำให้เค้าไม่รู้จักพ่อของเค้าด้วยซ้ำ

ตั้งแต่ที่เค้าออกจากระบบการศึกษา ออกมาใช่ชีวิตแบบ GANGSTER เต็มตัว เค้าก็ทำความผิดครับเกี่ยวกับทำร้ายร่างกาย เหมือนเคย แต่คราวนี้หนักหน่อยต้องอยู่ในค่ายกักกันเยาวชน หรือจะเรียกว่าคุก

เด็กก็ได้ครับ ต้องอยู่ในนั่นราวๆ ปีเศษๆ แต่มันก็ทำให้เค้าได้เจอกับ Ski Mask ที่อยู่ในค่ายกักกันเยาวชนเช่นกัน ทั่งคู่ก็เริ่มเป็นเพื่อนกันและสนิทกันมากขึ้น ตอนอยู่ในค่ายกักกัน 

แล้วเหมือนได้แลกเปลี่ยนเรื่องราวในชีวิต เหมือนถูกโฉลกกันก็เลยคุยกันว่าถ้าได้เป็นอิสระเมื่อไหร่ จะเริ่มทำเพลงกัน
และก็ได้ทำจริงๆหลังจากได้อิสระนะครับ

3.เพลงแรกที่อัพลง SoundCloud 

คือเพลงVice City นะครับ แล้วพวกเค้าก็ทำเพลงปล่อยออกมาเรื่อยๆ จนปล่อยออกมาสองอัลบั้ม ชื่อ Members Only Vol.1 และ Members Only Vol.2

แต่เพลงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในทั่งสองอัลบั้มชื่อเพลงว่า
'' Willy Wonka Was a Child Murderer ''
แต่มันก็ยังไม่ดังเปรี้ยงมาก มันดังเป็นวงแคบๆให้พวกที่ฟัง เฮฟวี่เมทัล ซะส่วนใหญ่ จนมาในปี 2559
ทั่งคู่ก็ได้ปล่อยซิงเกิ้ลเพลงชื่อว่า ' Look at Me '
ออกมานะครับ

เพลงนี้มันดังสนั่นหวั่นไหว แต่ไม่ใช่ว่า พอปล่อยเพลงออกมาปุ๊ปดังปั๊ปเลยไม่ใช่แบบนั่นนะครับ มันจะมีเวลาของมัน กว่าเพลงนี้จะดังมากๆจริงๆคือปี 2560 ซึ่งหลังจากปล่อยเพลง Look at Me ออกมาได้ปีนึงเต็มๆเลยครับ มันดังจนชนิดที่ว่า ติด 

Billboard hot 100 และ canadian hot 100 คือไม่ธรรมดาแล้วอะครับ

พอดังมากๆเข้า งานมากมายก็ติดต่อให้เค้าไปเล่น ไม่ว่าจะเป็น ผับดังๆ หรือผับเล็กๆ ตามรัฐต่างๆ 
ร้านเหล้า บลาบลา คือทุกทุกคนรู้ว่า X กำลังดังมากๆ และ มีชื่อเสียง จึงอยากแย่งตัวให้ไปเล่นที่ร้านตัวเองให้ได้เผื่อจะได้ลูกค้าอีกมากมายกายกอง คือรู้ว่าถ้า X ไปเล่นที่ไหน คนต้องมาที่ร้านหรือมาที่งานชนิดที่ว่าถล่มทยายแน่นอนครับ

มันเหมือนเป็นของใหม่สำหรับทุกทุกคนที่บ้า hiphop ในตอนนั่นครับ มันคืออะไรที่ฉีกกฎ เดิมๆ เหมือนเป็นม้ามืดของวงการเลยหล่ะครับ แล้วเรื่อง Look ของ X ที่มันเท่บาดใจสาวๆซะขนาดนี้ ขนาดผมเป็นผู้ชายชอบ X เลย แล้วจะเอาอะไรกับสาวๆหล่ะครับ คงคลั่งกันมากๆเลยหล่ะครับ ไม่Xไปเล่นที่ไหน ควงสาวกลับไปด้วยตลอด สั่งเกตุได้จากใน IG ของXนะครับ

จากตอนแรกที่ดังเปรี้ยงมากๆ มันเหมือนพระเจ้าล้อหลอกอะนะครับ แกโดนที่ผับใน ไมอามี่ ตอนไปเล่นที่นั่น คือนึกภาพ ตำรวจ ล้อมรอบผับ เพื่อจะรอให้ X เล่นเสร็จแล้วออกมาจากผับ แล้วก็จะคุมตัวไป รับความผิด แต่แฟนคลับวันนั่นไปเยอะมากๆ แฟนคลับทุกคน ไม่ยอมให้ ตำรวจ เอา X ไป ต่าง ตะโกนด่าตำรวจ พา X วิ่งหนีบ้าง สารผัดจะทำครับ แต่สุดท้าย X ก็เข้ามอบตัวกับตำรวจเอง เพราะถ้า แฟนคลับทุกคนทำแบบ นี้ ถึงX จะหนีไปได้ มันต้องเป็นเรื่องใหญ่แล้วเรื่องมันจะบานปลายแน่นอน ครับ 
เอ๊ะผมลืมพูดถึง เรื่องคดีทำร้ายแฟนสาว คือ แฟนแกไปท้องกับคนอื่นมาหน่ะครับ ด้วยความที่แกรู้ความจริง แล้ว ด้วยความเลือดร้อน แกก็จัดให้นางซะ ตาเกือบบอด ทั่งสองข้าง

4.อัลบั้มแรก

ชื่อว่า Bad Vibes อัลบั้มที่สองชื่อ 17(ปัจจุบันอัลบั้มนี้ผมตามหาไม่เจอวานผู้รู้หาให้ที 

ส่วนอัลบั้มที่ 3 ชื่อ I need Jesus 
                                         

คือทุกท่านไป ฟังแค่ สองอัลบั้มคือ Bad Vives กับ I need Jesus ก็โครตอินละครับ คือทุกเพลงๆใน สามอัลบั้มนี้ แกแต่งและขัดเกลาเพลงตอนอยู่ในคุกมันเป็นช่วงอารมณ์ที่ down ที่สุด หดหู่ที่สุด เนื้อเพลง
                                                                           

ในสามอัลบั้มนี้หลายคนบอกนะครับว่าไม่เข้าใจ เหมือนแกร้องมั่วๆ เอาจริงๆ มันเหมือนเป็นการหยิบจับโน้นนี้นั่นในใจเค้ามาบ่นให้ฟังซะมากกว่าครับ มันจะมีคำสอนต่างๆในเพลงด้วย เหมือนเป็นการให้กำลังใจตัวเอง

                                        

                                                                            

                                                                            

                                           5.เมื่อติดรายการ Freshman

เมื่อติด Freshman Xก็ยิ้งดังเข้าไปใหญ่ คือรายการ Freshman มันจะช่วงที่เอาแรพเปอร์หน้าใหม่ทุกคนมา freestyle โชวของกัน แบบ no beat ด้วยนะครับ

แต่พอถึงตาของ X พี่แกแรพเหมือนกำลัง diss ใคร

อยุ่ๆก็ด่าแหลก แต่ก็มีหลายคนชื่นชอบ นะครับเป็นกระแสใน โซเชียลพอสมควร X ยิ้งดังจากจุดนี้มากๆ

Ski Mask ต้องมี X ส่วน X ก็ต้องมี Ski Mask มันถึงจะ เดือดจริงไหมครับ คือ Ski อะ ผมว่าเค้าเป็นคนทำบีทที่แบบสื่ออารมณ์ของบีทไปถึงคนฟัง แกทำได้ดีเลยนะครับ คือจะให้บีทไหนมันจัดๆ แกก็จัดให้ กระแทก เสียงเข้าไปตู้มตู้ม พอบีทไหนมาเศร้า ก็เศร้าจนชนิดที่ว่า หดหู่อะครับ เข้าใจหดหู่ไหมครับ ผมเข้าใจนะทุกคนเคยฟังบีทที่เศร้า บีทที่แบบฟังละเหงาๆ แต่ บีทที่ฟังแล้วมันหดหู่คือมันเกินขีดเศร้ามาแล้ว

มันก็ไม่ใช่ว่าเค้าทั่งคู่จะทำเพลงสองเพลง ละปัง เหมือน ศิลปินคนอื่นๆ นะครับ ทั่งคู่นี้ ทำเพลงออกมาเยอะมากๆแล้วก็ต้องทิ้งไป บางทีเนื้อหาในเพลงก็แรงไป ลึกเกินไป ก็ต้องทิ้งไปแล้วเขียนขึ้นใหม่ บางทีบีทมันกระแทกไป ที่อื่นฟังเค้าว่าหนวกหู มันก็ต้องทิ้งไป พวกเค้าทั่งคู่
 
ลองผิดลองถูกกันมานับร้อยเพลงครับกว่าจะมีเพลงที่ดีที่สุดออกมา มันไม่ง่ายนะครับที่จะ ทำออกมาเพลงสองเพลง แล้วปังเลย เหมือน PUMP ของอย่างงิ้บางที มันต้องลดความชอบของตัวเองลง แล้วไปเอาใจคนฟังด้วย ไม่ใช่ว่า คุณจะเอาหูตัวเองจะเอาแต่ตัวเองชอบ คุณต้องแคร์คนที่ฟังคุณด้วย ว่าเค้าชอบไหม 

เค้าอยากให้ลดให้เพิ่มตรงไหน ถึงมันจะขัดความเป็นคุณไป บ้าง บางทีมันก็ต้องยอมๆกันไปหล่ะครับ เพราะคนที่ฟังเค้าก็เป็นคนเดียวกัน กับ คนที่สนับสนุนคุณนะครับ